Histogram ด้านขวาจะหมายถึง ส่วนที่สว่าง ด้านซ้าย คือส่วนที่มืด ถ้าภาพค่อนข้างมีส่วนที่เป็นสีดำมาก กราฟด้านขวาจะสูง กราฟด้านซ้ายจะเตี้ย ถ้ามีปริมาณสีขาวมาก กราฟด้านขวาจะสูง ย่านโทนไหนที่ไม่ปรากฏในภาพเลย จะแบราบ
ตังอย่าง histogram 3 แบบ กับภาพที่ต่างกัน
จากภาพด้านล่างจะเห็นว่า เราเห็นภาพส่วนท้องฟ้าเป็นสีขาว ไปแล้ว ซึ่งอาจเกิดเพราะปรับจอ LCD สว่างเกินไป แต่เมื่อดู histogram แล้วจะพบว่า ท้องฟ้าไม่ได้เป็นสีขาว เพราะ histogram ด้านขวาสุดไม่ได้แสดง
ประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างของ histogram คือ ช่วยให้เรานึกภาพการปรับแก้ในภายหลังออกได้ เช่น ภาพมิกกี้ และ มินนี่ จะเห็นว่า มีส่วนที่เป็นสีขาวและสีดำมาก ทำให้เรารู้ได้ว่า ส่วนที่เป็นท้องผ้าและเสื้อผ้า กลายเป็นดำแท้ ขาวแท้ ซึ่งเราจะไม่สามารถปรับแก้ภาพนี้ได้ หากต้องการเห็นเมฆบนท้องฟ้า หรือ เห็นรายละเอียดของเสื้อผ้า กรณีแบบนี้ที่ชัดเจนในการถ่ายภาพจริงคื การถ่ายรับปริญญาที่ชุดครุยเป็นสีดำ
ในอีกกรณี เราสามารถเช็คได้ว่า ขนสีขาวของโดนัลกับถุงมือ สว่างเกินไปหรือไม่ เมื่อดู histogram ก็จะเห็นว่า ส่วนที่เป็นสีขาวแท้ แทบจะไม่มีทำให้คาดเดาได้ว่า ขนสีขาวและถุงมือส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างสว่าง แต่ไม่ได้ขาวจนไม่เหลือเนื้อ ยังสามารถแก้ใขให้เห็นขนชัดเจนขึ้นเมื่อ Process ได้
จะเห็นได้ว่า histogram ไม่ใช่ ฟังก์ชั้นที่บอกว่าปูดตรงกลางเป็นรูประฆังคว่ำแล้วสวย เบ้ซ้ายคือมืดไป เบ้ขวาคือสว่างเกินไปเพียงอย่างเดียว แต่รูปทรงของ histogram ยังเป็นกราฟฟิคที่สะท้อนให้เราเข้าใจได้ง่ายถึงคทแร๊คเตอร์ของภาพแบบต่างๆ เช่น หากเราถ่าย Silhouette (ภาพเงาดำ) histogram ย่อมแสดงออกมาว่ามีน้ำหนักอยู่สองช่วงใหญ่ๆ คือช่วงเทากลางเกือบขาว ในส่วนฉากหลังและช่วงที่เป็น สีดำแท้ ปริมาณมาก เป็นต้น